Temu ชนศึกในตลาดอีคอมเมิร์ซสหรัฐอเมริกา: ความจริงหรือไม่?"
Temu ชนศึกในตลาดอีคอมเมิร์ซสหรัฐอเมริกา: ความจริงหรือไม่?"
Temu คืออะไร และมีจุดเด่นอะไรบ้าง
Temu เป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน โดยมีแนวคิดในการนำเสนอสินค้าราคาประหยัดและคุณภาพดีให้กับผู้บริโภคทั่วโลก Temu มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา จุดเด่นที่ทำให้ Temu โดดเด่นในตลาดอีคอมเมิร์ซได้แก่:
- ราคาที่แข่งขันได้: Temu นำเสนอสินค้าราคาประหยัด โดยใช้โมเดลธุรกิจที่เน้นการเชื่อมต่อระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคโดยตรง ทำให้สามารถลดต้นทุนการจัดการและเสนอลดราคาสินค้าได้
- ความหลากหลายของสินค้า: Temu มีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าแฟชั่น อิเล็กทรอนิกส์ ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงเครื่องสำอางและเครื่องประดับ
- โปรโมชั่นและส่วนลด: Temu มักมีโปรโมชั่นและส่วนลดที่น่าสนใจ ทำให้ดึงดูดผู้บริโภคใหม่และรักษาลูกค้าเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้งานง่าย: แพลตฟอร์มของ Temu ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีอินเตอร์เฟซที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้
- การบริการลูกค้า: Temu ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า โดยมีทีมงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
การเติบโตและการขยายตัวของ Temu ในตลาดอีคอมเมิร์ซ
Temu ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่และมีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก
- จำนวนผู้ใช้งานและยอดขาย: ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 Temu มียอดขายประมาณ 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีกำไรสุทธิประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับแพลตฟอร์มที่เพิ่งเริ่มต้น
- การขยายตัวในต่างประเทศ: Temu ได้ขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ทำให้มีฐานลูกค้าทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- กลยุทธ์การตลาด: Temu ใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการใช้โปรโมชั่นและส่วนลด เพื่อดึงดูดผู้บริโภคใหม่และกระตุ้นการซื้อสินค้าของลูกค้าเดิม
- การพัฒนาเทคโนโลยี: Temu มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการจัดการสินค้าคงคลัง
- การลงทุนในโลจิสติกส์: Temu ได้ลงทุนในระบบโลจิสติกส์และการจัดส่งสินค้า เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเติบโตและการขยายตัวของ Temu ในตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องที่น่าติดตาม และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Amazon และ ebay
มีรายงานว่า Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากจีนที่เน้นขายสินค้าราคาประหยัด ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อ Amazon ในตลาดสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในเรื่องการดึงดูดลูกค้าใหม่และการรักษาลูกค้าเดิม ในการสำรวจผู้บริโภคเมื่อเดือนเมษายน 2024 พบว่า 34% ของผู้ตอบแบบสอบถามซื้อสินค้าจาก Temu อย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่า eBay และใกล้เคียงกับ Amazon【47†source】.
ความสำเร็จของ Temu มาจากการนำเสนอสินค้าราคาถูกและการตลาด (The Star) ผู้ใช้ Temu มีแนวโน้มที่จะใช้เวลาเฉลี่ยบนแอปนานกว่า Amazon ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดึงดูดและรักษาลูกค้าได้ดี นอกจากนี้ Temu ยังมีการเติบโตในด้านจำนวนผู้ใช้ใหม่และความนิยมของแอปในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา【48†source】.
แม้ว่า Amazon จะมีระบบการจัดส่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ รวมถึงมีสมาชิก Prime ที่ได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย แต่ Temu ก็ได้พยาย (Retail Insight Network)ส่งและบริการลูกค้าเพื่อแข่งขันในตลาดนี้ ทั้งสองแพลตฟอร์มมีระบบการคืนสินค้าที่คล้ายคลึงกัน แต่ Amazon ยังคงได้เปรียบในด้านโครงสร้างพื้นฐานและประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน【49†source】.
ในขณะที่ Temu ยังคงต้องพัฒนาความน่าเชื่อถือและการบริการลูกค้าเพิ่มเติม การเติบโตที่รวดเร็วของแพลตฟอร์มนี้ในตลาดสหรัฐอเมริกานั้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม Amazon ยังคงเป็นผู้เล่นหลักที่ยากจ (ForwardMe)เวลาอันสั้น
ผลประกอบการของบริษัทอีคอมเมิร์ซในครึ่งปีแรกของปี 2024
- Amazon: รายได้ 260.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Walmart: รายได้ 103.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร (SimilarWeb) (SimilarWeb). eBay: รายได้ 40.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Target: รายได้ 48.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Temu: รายได้ 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Best Buy: รายได้ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 0.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Chewy: รายได้ 10.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Etsy: รายได้ 2.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไร 0.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความสำเร็จของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา โดย Amazon ยังคงเป็นผู้นำตลาดทั้งในด้านผู้เข้าชมและผลประกอบการ【65†source】【66†source】【79†source】. (Tigren) (eCommerce Insights) (Expert Market Research)
การจัดอันดับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา (มิถุนายน 2024)
- Amazon: Amazon.com เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้เข้าชมมากที่สุดในหมวดหมู่ Ecommerce & Shopping ในเดือนมิถุนายน 2024
- eBay: eBay.com เป็นอันดับสอง โดยมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ใช้แพลตฟอร์มเพื่อซื้อและขายสินค้าหลากหลายประเภท
- Walmart: Walmart.com อยู่ในอันดับที่สาม โดยมีการผสมผสานระหว่างการขายออนไลน์และร้านค้าจริง
- Etsy: Etsy.com เป็นอันดับสี่ โดยเน้นสินค้าที่ทำมือและสินค้าวินเทจ ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์
- Craigslist: Craigslist.org อยู่ในอันดับที่ห้า โดยเน้นการประกาศซื้อขายสินค้าท้องถิ่น
ข้อมูลนี้มาจากการวิเคราะห์เว็บไซต์ยอดนิยมในสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายน 2024 ซึ่งจัดทำโดย Similarweb
เปรียบเทียบกับ aliexpress
ผลประกอบการและการเข้าชมเว็บไซต์ของ AliExpress ในครึ่งปีแรกของปี 2024
ผลประกอบการ
AliExpress ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Alibaba Group มีการเติบโตที่สำคัญในครึ่งปีแรกของปี 2024 โดยมียอดรายได้ประมาณ 15.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าตัวเลขนี้จะน้อยกว่า Amazon และ Walmart แต่ AliExpress ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกา
จากข้อมูลที่มีอยู่ในตารางเปรียบเทียบระหว่าง Temu และ AliExpress ในครึ่งปีแรกของปี 2024 พบว่า:
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น